สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่
Office of Agricultural Extension and Development Region 6, Chiang Mai

คลังความรู้

บุญหย่วน ดีคำวงศ์ คนพอเพียงแห่งภูเพียง จ.น่าน

19 ก.ค. 2560
    กดที่รูปเพื่อขยาย

“แต่ก่อนเคยทำไร่ข้าวโพด 20 ไร่ ต้องใช้ยาและปุ๋ยเคมีมากอีกทั้งแรงงานหายาก เมื่อขายผลผลิตแล้ว หักลบต้นทุนกำไรไม่คุ้มค่าจึงน้อมนำเอาศาสตร์พระราชา ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ทำการเกษตรแบบพอเพียงในพื้นที่2 ไร่กว่า สามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญา 2 คน” เป็นคำกล่าวที่ภาคภูมิใจของนายบุญหย่วน ดีคำวงศ์ เกษตรกรวัย 60 ปี ต.น้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียงจ.น่าน

เมื่อปี 2535ได้เริ่มนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในพื้นที่ 2ไร่กว่าบริเวณบ้าน ของตนเอง โดยทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผลเลี้ยงไก่ จิ้งหรีดและกบ ใช้แรงงานภายในครอบครัวไม่ต้องจ้างแรงงาน ทุกอย่างที่ปลูกและเลี้ยงได้นำมาประกอบอาหารในครอบครัว ส่วนที่เหลือก็จำหน่ายเป็นรายได้ ปัจจุบันทุกวันจะมีรายได้จากพืชผัก300 บาท ในรอบเดือนมีรายได้จากการจำหน่ายจิ้งหรีด 4,000 – 6,000 บาท และในรอบปีจะจำหน่ายลูกกบได้กว่า50,000 บาท พร้อมกับจำหน่ายผลไม้ในสวนอีกประมาณ 20,000 บาท ซึ่งรายได้ทั้งหมดนี้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้  เรื่องปุ๋ยและยาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพราะทำปุ๋ยหมักปุ๋ยชีวภาพใช้เอง รวมทั้งการป้องกันกำจัดศัตรูพืชด้วยสารชีวภัณฑ์และกาวดักเป็นการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพผลผลิตแบบพอเพียงและยั่งยืน

การเพาะเลี้ยงลูกกบทุ่งของบุญหย่วน

“กบที่ผมเลี้ยงเป็นกบทุ่งตามธรรมชาติ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมีคนต้องการลูกกบไปเพาะเลี้ยงมาก ผมจึงเพาะเลี้ยงเพื่อเอาลูกกบขาย ใช้เวลา 1 - 1เดือนครึ่ง ก็ได้เงิน แต่กว่าจะเพาะลูกกบได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมต้องใช้เวลากว่า 3ปีที่ ศึกษาเรียนรู้จากธรรมชาติจึงประสบความสำเร็จ”

นายบุญหย่วนเล่าว่าเขาเริ่มเลี้ยงกบจากการจับลูกอ็อดตามธรรมชาติ มาเลี้ยงประมาณ 1 ปี กบจะโตพร้อมผสมพันธุ์และวางไข่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ช่วงปลายเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ฝนเริ่มตกกบจะร้องส่งเสียงเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ จำเป็นต้องเตรียมบ่อ/ถังโดยใส่น้ำให้สูงประมาณ 10 เซนติเมตร หาใบลิ้นจี่สัก 4-5 เคล็ดใส่ลงในบ่อ/ถังจากนั้นนำกบพ่อ-แม่พันธุ์ที่จับคู่กันได้แล้ว ลงบ่อ/ถังที่เตรียมไว้พอรุ่งขี้นต้องตื่นแต่เช้ามืดประมาณตี 5 สังเกตจะมีกลุ่มไข่ของกบติดอยู่ที่ใต้ใบลิ้นจี่ให้นำเอาพ่อ-แม่พันธุ์กบออกจากบ่อ/ถัง ปล่อยไว้ 1 วันไข่ก็จะเป็นตัวลูกอ็อดและเลี้ยงด้วยไข่ตุ๋น เมื่อเป็นตัวประมาณ 20วันให้นำแผ่นโฟมใส่ลงบ่อเพื่อให้กบมีที่เกาะ เลี้ยงประประมาณ 1 เดือนก็จำหน่ายตัวละ 4 บาท โดยพ่อ-แม่พันธุ์แต่ละคู่จะออกไข่ประมาณ 2,000-2,500 ตัวปีหนึ่งสามารถเพาะลูกกบได้ 2 ครั้งคือช่วงต้นฝน(มิถุนายน-กรกฎาคม)และช่วงปลายฝน(สิงหาคม)

ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่6 จ.เชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่าแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและการเกษตรผสมผสานเป็นพื้นฐานการสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกร สามารถลดรายจ่ายเพิ่มรายได้และสามารถทำได้จริง เกษตรกรที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่นายบุญหย่วนดีคำวงศ์ 107 ม.4 ต.น้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียงจ.น่าน โทร.094-9722252